Sunday, December 25, 2011

ศิลปะแห่งการตกหลุมรัก


Twilight ตอนล่าสุดจากหนังสือเล่มสุดท้ายเพิ่งฉายไป ขอเขียนถึงเรื่องนี้สักหน่อย เคยอ่านเมื่อเกือบๆสามปีก่อน 4 เล่มรวด สนุกทุกเล่ม

คร่าวๆคือ Twilight Saga เป็นหนังสือชุด มีทั้งหมด 4 เล่ม เป็นเรื่องราวของ Belle ที่ไปตกหลุมรัก Vampire ในเรื่องจะมีทั้งมนุษย์(Human) แวมไพร์(Vampire) และมนุษย์หมาป่า(Werewolf) เรื่องราวสนุกมาก ตามสไตล์วัยรุ่นรักๆใคร่ๆ จากกระแสแวมไพร์ ก็ลามมาถึงซีรี่ย์ ที่พาเหรดกันมาแวมไพร์ทั้งหลาย
อาทิ Vampire Diaries, True Blood แถมล่าสุดมี Teen Wolf อีกต่างหาก แต่..ไม่เคยดูซีรี่ย์เหล่านี้เลยสักเรื่อง ว่าจะหามาดูอยู่เหมือนกัน รอว่างก่อนนะ

วกกลับมา Twilight ในเล่มที่สี่ มันมีคำศัพท์คำนึงที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต แต่พอได้อ่านจากหนังสือก็เข้าใจความหมายได้ทันทีว่ามันหมายถึง การตกหลุมรัก คำนั้นคือคำว่า imprint เห็นแล้วก็งง มันกลายเป็นความหมายว่าตกหลุมรักได้ไงเนี่ย
ถ้าแปลเป็นไทย ความหมายจะประมาณว่าแรงกว่า "ตกหลุมรัก" ธรรมดาอ่ะ 

อันนี้สปอยล์เนื้อหาของเล่มสี่หน่อย

หลังจากที่เบลล่าได้กลายเป็นแวมไพร์ ระหว่างที่สลบไปนั้น ลูกสาวคือ เรเนสเม่ ก็ได้เกิดแล้ว มีทั้งพ่อคือเอ็ดเวิร์ดคอยดูแล และดั๊นมีเพื่อนมนุษย์หมาป่ามาคอยดูแลด้วยคือเจคอบ เจคอบพอแรกเห็นเรเนสเน่ ก็ imprint ทันที พอเบลล่าฟื้นขึ้นมารู้เข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อย่าว่าแต่เบลล่าโกรธเลย คนอ่านก็งงด้วย เด็กแรกเกิดไป imprint ได้ไงเนี่ย ฮ่าๆๆ

กลับมาที่คำศัพท์เกี่ยวกับการตกหลุมรัก มันมีเยอะมากๆที่เคยเจอ

Fall in love คำนี้ง่ายๆตามตัวเลย ตกหลุมรัก ไม่รู้ว่าไทยแปลมาจากอังกฤษรึเปล่า ถึงใช้คำที่มีความหมายใกล้เคียงกันขนาดนี้

Crush on you คำนี้ เพื่อนเคยแชทกะฝรั่ง พอเห็นรูปเค้า มันก็บอกว่า "ใช่เลย" ฝรั่งถาม มันแปลว่าอะไรเลย มันตอบว่า Crush on you :)

Love at first sight รักแรกพบ

อยากเจอคำศํพท์เกี่ยวกับตกหลุมรักเยอะๆ แนะนำให้ฟังเพลง หรือดูหนังแนวโรแมนติคคอมเมดี้

อย่างอาการเวลาคนเราตกหลุมรัก ก็อย่างเช่น Take my breath away ตอนเจอคำนี้ครั้งแรก ต้องร้อง โอ้ว ว้าว เวลาเรารู้สึกรักใคร มันจะเหมือนอาการแบบ ลืมหายใจ 

ปิดท้ายด้วยคติเกี่ยวกับความรักจากหนังสือ Twilight เล่มสอง

เป็นตอนที่ต่อจากเล่มแรก หลังจากเอ็ดเวิร์ดหายไปจากชีวิตเบลล่า เบลล่าเธอก็เบลอๆ เหมือนคนไร้วิญญาณน่ะ (อ่านถึงตอนนี้เป็นตอนเดียวที่เข้าข้างเบลล่านะ นอกนั้นทั้งเล่มเบื่อเธอมาก)
จนพ่อของเบลล่า ต้องพูดกะลูกว่า
If you love something, set it free , if it was meant to be , it will come back to you. 

ความหมายก็คือว่า ถ้าเรารักอะไร หรือรักใครสักคน ให้ปล่อยเค้าไป ถ้าเค้าเป็นของเรา เค้าจะกลับมาเอง

คำว่าฟรี คนไทยจะคุ้นเคยว่ามันหมายถึง ไม่ต้องจ่ายตังค์ แต่ความหมายของคำนี้จริงๆ มันแปลว่า "อิสระภาพ" 

set it free ก็คือ ปลดปล่อยมันไป นั่นเอง 

No comments:

Post a Comment